Download PDF

การพัฒนารูปแบบการหนุนเสริมสถานศึกษาเป็นชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษาของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครพนม เขต 1
The Development Supporting Model for Professional Learning Community of School to Develop Educational Quality under Nakhon Phanom Primary Educational Service Area Office 1

ผู้แต่ง
นฤมล สุภาทอง
Author
Narumon Supathong

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อ 1) ศึกษาองค์ประกอบของการเป็นชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพของสถานศึกษาเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษา 2) ศึกษาความต้องการจำเป็นในการหนุนเสริมสถานศึกษาเป็นชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษา 3) สร้างและพัฒนารูปแบบการหนุนเสริมสถานศึกษาเป็นชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษา และ4) ศึกษาประสิทธิผลรูปแบบการหนุนเสริมสถานศึกษาเป็นชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษา กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยเชิงสำรวจ คือ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครพนม เขต 1 ปีการศึกษา 2566 จำนวน 334 คน ได้มาโดยการสุ่มกลุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอน และกลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการทดลองจำนวน 15 โรงเรียน โดยการเลือกแบบสมัครใจ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบวิเคราะห์เอกสาร แบบสอบถาม แบบสัมภาษณ์ แบบประเมิน แบบสังเกตพฤติกรรม และแบบทดสอบ สถิติที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และดัชนีลำดับความสำคัญของความต้องการจำเป็น
ผลการวิจัยพบว่า
1. องค์ประกอบของการเป็นชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพมี 5 องค์ประกอบ ได้แก่ 1) การเรียนรู้ร่วมกันและการประยุกต์ใช้ความรู้ 2) การสร้างค่านิยมและวิสัยทัศน์ร่วม 3) การสนับสนุนและการเป็นผู้นำร่วมกัน 
4) การจัดสภาพที่เอื้ออำนวย และ 5) การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างบุคคล
2. ความต้องการจำเป็นในการหนุนเสริมสถานศึกษาเป็นชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ เรียงลำดับตามความต้องการจำเป็น ได้แก่ การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างบุคคล การสนับสนุนและการเป็นผู้นำร่วมกัน 
การเรียนรู้ร่วมกันและการประยุกต์ใช้ความรู้ การจัดสภาพที่เอื้ออำนวย และการสร้างค่านิยมและวิสัยทัศน์ร่วม 
3. รูปแบบการหนุนเสริมสถานศึกษาเป็นชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษาของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครพนม เขต 1 ประกอบด้วย หลักการ วัตถุประสงค์ เนื้อหา กระบวนการ สื่อและแหล่งเรียนรู้ และการวัดผลและประเมินผล ที่ได้รับการประเมินในด้านความถูกต้องความเหมาะสม ความเป็นไปได้ ความเป็นประโยชน์โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุดทุกด้าน
4. ประสิทธิผลรูปแบบการหนุนเสริมสถานศึกษาเป็นชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษาของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครพนม เขต 1 พบว่า 1) ผลการทดสอบความรู้ความเข้าใจการศึกษาของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครพนม เขต 1 พบว่า 1) ผลการทดสอบความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพมีคะแนนเฉลี่ยหลังเข้าร่วมทดลองใช้รูปแบบเพิ่มขึ้นร้อยละ 42.17 ค่าดัชนีประสิทธิผลของการพัฒนาสถานศึกษาเป็นชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพเท่ากับ 0.7386 คิดเป็นร้อยละความก้าวหน้าเท่ากับ 73.86 2) ผลการประเมินความสามารถของผู้บริหาร ครู และนักเรียน โดยผู้เชี่ยวชาญลงพื้นที่สังเกตชั้นเรียนและกิจกรรมชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ จำนวน 15 โรงเรียน โดยรวมอยู่ในระดับมาก 3) ผลการประเมินสมรรถนะสำคัญของผู้เรียนหลังการทดลองใช้รูปแบบโดยรวมอยู่ในระดับมาก 4) ผลการประเมินคุณภาพการศึกษาตามเกณฑ์การประเมินโรงเรียนน่าอยู่ เรียนรู้อย่างมีคุณภาพ หลังการทดลองใช้รูปแบบ โดยรวมอยู่ในระดับมาก เพิ่มขึ้นโดยรวมร้อยละ 26.80 และ 5) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนโดยใช้ผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O - NET) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ปีการศึกษา 2566 ของโรงเรียนกลุ่มเป้าหมายมีพัฒนาการเพิ่มขึ้นจากปีการศึกษา 2565 เท่ากับ 2.56 

Abstract

The purposes of this research were to: 1) study the components of being a professional learning community in school to improve the quality of education, 2) study the necessary needs in supporting school to become professional learning community to improve the quality of education, 3) create and develop a model to support school to become professional learning community to improve the quality of education, and 4) study the effectiveness of the model to support school to become professional learning community to improve the quality of education. The sample used in this survey research consisted of 334 teachers and directors under the Nakhon Phanom Primary Educational Service Area Office 1, in the academic year 2023, obtained through multi - stage sampling, and the target group used in the experiment consisted of 15 schools selected through voluntory sampling. The research instruments include document analysis forms, questionnaires, interview forms, evaluation forms, behavior observation forms, and test forms. The statistics used in the research include frequency, percentage, mean, standard deviation, and priority needs index.
The research finding were as follow:
1. There are 5 components of professional learning community, including 1) joint learning and the application of knowledge. 2) Creating Values and Visions. 3) Support and joint leadership, 4) Conditions that are conducive and 5) Exchange of knowledge between individuals.
2. The need to support schools is a professional learning community, lined up as needed, such as the exchange of knowledge between individuals, Support and joint leadership, joint learning and application of knowledge, Conditions that are conducive, and Creating Values and Visions.
3. The model to support school as professional learning community to develop the quality of Nakhon Phanom Primary Educational Service Area Office 1, consists of principles, objectives, content, process, media and learning resources, and measurement and evaluation, all of which have been assessed as highly appropriate, feasible and beneficial in all aspects.
4. The effectiveness of the model to support school as professional learning community to develop the quality of Nakhon Phanom Primary Educational Service Area Office 1, District 1 found that: 1) the average test scores on knowledge and understanding of professional learning community increased by 42.17% after participating in the trial. The effectiveness index of developing educational school as professional learning community was 0.7386, equivalent to 73.86% progress. 2) The evaluation of the competency of administrators, teachers and students by experts observing classrooms and professional learning community activities in 15 schools was overall at a high level. 3) The evaluation of educational quality according to the criteria for ‘School of Quality Learning’ after using the model increased overall by 26.80% and was at a high level. 4) The academic achievement of students using the results of Ordinary National Educational Test (O - NET) for Prathom Suksa 6 in the 2023 academic year of the target schools increased by 2.56 points compared to the 2022 academic year.

คำสำคัญ

การพัฒนารูปแบบ, ชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ, คุณภาพการศึกษา

Keyword

Development Supporting Model, Professional Learning Community, Educational Quality

---