บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา ความต้องการจำเป็นและแนวทางพัฒนาสมรรถนะผู้บริหารสถานศึกษาของโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาในจังหวัดสกลนคร กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ประกอบด้วย ผู้บริหารสถานศึกษาและครูผู้สอน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาในจังหวัดสกลนคร ที่ปฏิบัติงานในปีการศึกษา 2565 จำนวน 356 คน จำแนกเป็นผู้บริหารสถานศึกษา จำนวน 89 คน และครูผู้สอน 267 คน จากโรงเรียน 89 โรงเรียน วิธีการสุ่มแบบหลายขั้นตอน (Multi – stage Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยคือ แบบสอบถามและแบบสัมภาษณ์ คุณภาพของเครื่องมือแบบสอบถามสภาพปัจจุบันของสมรรถนะผู้บริหารสถานศึกษาของโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา มีค่าอำนาจจำแนกอยู่ระหว่าง 0.594 - 0.877 และมีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.963 สภาพที่พึงประสงค์ของสมรรถนะผู้บริหารสถานศึกษาของโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา มีค่าอำนาจจำแนก อยู่ระหว่าง 0.566 - 0.917 และมีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.971 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ความถี่ (t - test ชนิด Independent Samples) ใช้การทดสอบเอฟ (F - test) แบบการวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (One way ANOVA) และการวิเคราะห์ค่าดัชนีจัดเรียงลำดับความต้องการจำเป็นแบบปรับปรุง (Modified Priority Needs Index; PNImodified) ผลการวิจัยพบว่า 1. สภาพปัจจุบันของสมรรถนะผู้บริหารสถานศึกษาของโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา ตามความคิดเห็นของผู้บริหารสถานศึกษาและครูผู้สอน อยู่ในระดับมาก ส่วนสภาพที่พึงประสงค์ อยู่ในระดับมากที่สุด 2. สมรรถนะผู้บริหารสถานศึกษาของโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาในจังหวัดสกลนคร ตามความคิดเห็นของผู้บริหารสถานศึกษาและครูผู้สอน จำแนกตามสถานภาพการดำรงตำแหน่ง มีความคิดเห็นต่อสภาพปัจจุบันและสภาพที่พึงประสงค์ โดยรวมแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 จำแนกตามสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาที่สังกัด มีความคิดเห็นต่อสภาพปัจจุบัน โดยรวมแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ส่วนสภาพที่พึงประสงค์ไม่แตกต่างกัน และจำแนกตามประสบการณ์ในการปฏิบัติงาน มีความคิดเห็นต่อสภาพปัจจุบันและสภาพที่พึงประสงค์ โดยรวมแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 3. ความต้องการจำเป็นของสมรรถนะผู้บริหารสถานศึกษาของโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา พบว่า การสื่อสารและการจูงใจ มีความต้องการจำเป็นมากที่สุด 4. สมรรถนะผู้บริหารสถานศึกษาของโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาในจังหวัดสกลนคร ที่ต้องพัฒนา คือ การสื่อสารและการจูงใจ โดยมีแนวทางพัฒนาด้านต่าง ๆ ดังนี้ 1) ส่งเสริมให้ผู้บริหารมีความสามารถในการพูด เขียน สื่อสาร โต้ตอบ ในโอกาสและสถานการณ์ต่าง ๆ 2) การพูดโน้มน้าวจูงใจให้ผู้อื่นเห็นด้วย ยอมรับ เพื่อเกิดผลสำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้และให้เข้าใจตรงกัน 3) ผู้บริหารควรใช้ทักษะการสื่อสารด้านการพูดและติดต่อสื่อสารกับองค์กรอื่น ๆ
Abstract
This research aimed to investigate the needs and guidelines for competency development of school administrators in Educational Opportunity Expansion Schools under the Primary Educational Service Area Office in Sakon Nakhon Province. The sample consisted of 356 participants, including 89 school administrators and 267 teachers from 89 schools under the Primary Educational Service Area Office in Sakon Nakhon Province in the 2022 academic year, selected through multi-stage random sampling. The research instruments included a set of questionnaires and an interview form on the current and desirable conditions of competency development of school administrators in Educational Opportunity Expansion Schools, with the discriminative power ranging from 0.594 to 0.877, and from 0.566 to 0.917, and the reliability rates of 0.963 and 0.971, respectively. The statistics for data analysis included frequency, Independent Samples t - test, One - Way ANOVA, and Modified Priority Needs Index (PNImodified). The findings were as follows: 1. The current conditions of competency development of school administrators in Educational Opportunity Expansion Schools under the Primary Educational Service Area Office in Sakon Nakhon Province, as perceived by participants, were rated at a high level, while desirable conditions were at the highest level. 2. The competency of school administrators, classified by participants’ positions, as a whole, was different at the .01 level of significance when considering both current and desirable conditions. Within the Primary Education Service Area Office, as a whole, there were differences at the .01 level of significance in the context of current conditions, but not in accordance with desirable conditions. In terms of work experience, differences were achieved at the .01 level of significance under both current and desirable conditions. 3. The needs of school administrators' competency were ranked in the order of importance from the most to the least as follows: communication and motivation, self - development, visionary, analytical and synthetic thinking, teamwork, and achievement orientation. 4. The competency of school administrators in terms of communication and motivation was rated as needing development as follows: 1) abilities in verbal and written expression, and communication across diverse contexts, 2) persuasive abilities conducive to fostering consensus and acceptance, and mutual understanding in achieving assigned goals, and 3) verbal communication skills and engagement with external organizations
คำสำคัญ
ความต้องการจำเป็น, สมรรถนะผู้บริหารสถานศึกษา, โรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษาKeyword
Needs, Competency of School Administrators, Educational Opportunity Expansion Schoolsกำลังออนไลน์: 51
วันนี้: 1,346
เมื่อวานนี้: 1,740
จำนวนครั้งการเข้าชม: 56,545
อาคารบัณฑิตวิทยาลัย ชั้น 2 ตำบลธาตุเชิงชุม อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร 47000 โทร/ แฟกซ์ 0-4297-0036
บรรณาธิการ: รองศาสตราจารย์ ดร.ไชยา ภาวะบุตร
ติดต่อ/สอบถาม: นายธีรเวทย์ เพียรธัญญกรณ์
โทร: 0-4297-0093