...
...
เผยแพร่: 31 มี.ค. 2567
หน้า: 122-132
ประเภท: บทความวิจัย/บทความวิทยานิพนธ์
View: 345
Download: 106
Download PDF
ทักษะการนิเทศของผู้บริหารที่ส่งผลต่อการปฏิบัติงานของครูในโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบึงกาฬ
Supervision Skill of Administrators Affecting the Teachers’ Performance in School Under Bueng Kan Primary Educational Service Area Office
ผู้แต่ง
ขชล ไชยเทพ, ศิกานต์ เพียรธัญญกรณ์, ฤทัยทรัพย์ ดอกคำ
Author
Kachol Chaitep, Sikan Pienthunyakorn, Ruthaisap Dokkham

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อศึกษา เปรียบเทียบ ศึกษาความสัมพันธ์ อำนาจพยากรณ์และหาแนวทางการยกระดับทักษะการนิเทศของผู้บริหารที่ส่งผลต่อการปฏิบัติงานของครูในโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบึงกาฬ ตามความคิดเห็นของผู้บริหารสถานศึกษาและครูผู้สอน จำแนกตามสถานภาพการดำรงตำแหน่ง ประสบการณ์ทำงานและขนาดของสถานศึกษา การวิจัยในครั้งนี้เป็นงานวิจัยเชิงสหสัมพันธ์ (Correlation Research) กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ผู้บริหารสถานศึกษา ครูผู้สอนในปีการศึกษา 2565 จำนวน 349 คน จำแนกเป็นผู้บริหารสถานศึกษา จำนวน 87 คนครูผู้สอน จำนวน 262 คน จากจำนวน 212 โรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบึงกาฬ กำหนดขนาดของกลุ่มตัวอย่างโดยใช้ตารางของเครจซี่และมอร์แกนและสุ่มแบบหลายขั้นตอน (Multi – Stage Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ ได้แก่แบบสอบถาม และแบบสัมภาษณ์ คุณภาพของแบบสอบถามทั้งฉบับมีค่าอำนาจจำแนกอยู่ระหว่าง 0.38 - 0.82 และมีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.96 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สถิติทดสอบค่าที (Independent Samples t-test) การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (One-Way ANOVA) ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์อย่างง่ายของเพียร์สัน (Pearson’s Product-Moment Correlation Coefficient) และการวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณแต่ละขั้นตอน (Stepwise Multiple Regression Analysis) ผลการวิจัยพบว่า 1. ทักษะการนิเทศของผู้บริหารและการปฏิบัติงานของครูในโรงเรียน อยู่ในระดับมาก 2. ทักษะการนิเทศของผู้บริหารในโรงเรียน พบว่า จำแนกตามสถานภาพการดำรงตำแหน่ง และประสบการณ์ทำงาน โดยรวมไม่แตกต่างกัน จำแนกตามขนาดของสถานศึกษา โดยรวมแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 3. การปฏิบัติงานของครูในโรงเรียน พบว่า จำแนกตามสถานภาพการดำรงตำแหน่ง โดยรวมแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 จำแนกตามประสบการณ์ทำงาน โดยรวมไม่แตกต่างกัน จำแนกตามขนาดของสถานศึกษา โดยรวมแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 4. ทักษะการนิเทศของผู้บริหารและการปฏิบัติงานของครูในโรงเรียนมีความสัมพันธ์ทางบวก อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 โดยมีความสัมพันธ์ระดับปานกลาง (rXtYt= .699) 5. ทักษะการนิเทศของผู้บริหารที่สามารถพยากรณ์การปฏิบัติงานของครูในโรงเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 คือ ทักษะด้านการบริหารงานบุคคล (X5) ทักษะด้านความเป็นผู้นำ (X2) และมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 คือ ทักษะด้านเทคนิค (X3) และทักษะด้านการประเมินผลการปฏิบัติงาน (X4) โดยอำนาจพยากรณ์ได้ร้อยละ 48.40 และมีความคลาดเคลื่อนมาตรฐานของการพยากรณ์เท่ากับ ±.31417 6. การวิจัยในครั้งนี้ได้นำเสนอแนวทางการยกระดับทักษะการนิเทศของผู้บริหาร จำนวน 4 ทักษะ ที่ส่งผลต่อการปฏิบัติงานของครูในโรงเรียน คือ ทักษะด้านการบริหารงานบุคคล ทักษะด้านความเป็นผู้นำ ทักษะด้านเทคนิคและทักษะด้านการประเมินผลการปฏิบัติงาน

Abstract

The purposes of this correlational research were to study, compare, and search for the method to enhance the supervision skill of administrators and its effect on the teachers’ performance in schools that belong to the Bueng Kan Primary Educational Service Area Office. The perspective of administrators and teachers, who have different positions, work experiences, and school sizes, The population of this correlation research included school administrators and teachers, totaling 349 people, consisting of 87 school administrators and 262 teachers from 212 schools belonging to the Bueng Kan Primary Educational Service Area Office in the 2022 academic year. The Krejcie and Morgan tables and the Multi-Stage Random Sampling were used to determine the sampling. The instruments for collecting the data were questionnaires and interviews, both instruments had discrimination values between 0.38 to 0.82, and the reliability of 0.96. The statistics used to analyze the data were frequency, percentage, mean, standard deviation, Independent Samples t-test, One-Way ANOVA, Pearson’s product-moment correlation coefficient, and Stepwise multiple regression analysis. The findings were as follows: 1. Supervision skills of administrators and teachers’ performance in school were at a high level overall. 2. Supervision skills of administrators found that the overall of position statuses and work experiences were not different. However, in terms of school sizes has the difference of statistically significant at level 0.01. 3. Teachers’ performance in the school found that the overall of position statuses and work experiences were different statistical significantly at level 0.05. Likewise, the school sizes also have the difference of statistically significant at level 0.01. 4. Supervision skills of administrators and teachers' performance in school had a positive relationship which was statistically significant at the .01 that means moderate correlation. (rXtYt= .699) 5. Administrators' supervision skills that can estimate teachers' performance in schools had the statistical significance at the .01 level was personnel management skills (X5), leadership skills (X2), and the statistical significance at the .05 level was technical skills (X3) and assessment skills.  performance (X4) with predictive power of 48.40% and the standard deviation of estimating of ±.31417. 6. This research indicates a guideline for improving the supervision skills of administrators in 4 skills that affect the performance of teachers in schools. Including personnel management skills, leadership skills, technical skills, and performance assessment skills

คำสำคัญ

ทักษะการนิเทศของผู้บริหาร, การปฏิบัติงานของครู

Keyword

Supervisory Skills of Administrators, Teachers’ performance

สำนักงานสาขาวิชาการบริหารการศึกษา

อาคารบัณฑิตวิทยาลัย ชั้น 2 ตำบลธาตุเชิงชุม อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร 47000 โทร/ แฟกซ์ 0-4297-0036

ติดต่อเรา

บรรณาธิการ: รองศาสตราจารย์ ดร.ไชยา ภาวะบุตร

ติดต่อ/สอบถาม: นายธีรเวทย์ เพียรธัญญกรณ์

โทร: 0-4297-0093