บทคัดย่อ
การวิจัยในครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อ 1) ศึกษาระดับภาวะผู้นำเชิงสถานการณ์ของผู้บริหารและประสิทธิผลการบริหารงานโรงเรียน 2) เปรียบเทียบภาวะผู้นำเชิงสถานการณ์ของผู้บริหารและประสิทธิผลการบริหารงานโรงเรียน 3) ศึกษาความสัมพันธ์ของภาวะผู้นำเชิงสถานการณ์ของผู้บริหารและประสิทธิผลการบริหารงานโรงเรียน 4) ศึกษาอำนาจพยากรณ์ของภาวะผู้นำเชิงสถานการณ์ของผู้บริหารที่ส่งผลต่อประสิทธิผลการบริหารงานโรงเรียน และ 5) ศึกษาแนวทางการพัฒนาภาวะผู้นำเชิงสถานการณ์ของผู้บริหารและประสิทธิผลการบริหารงานโรงเรียน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ ผู้บริหารโรงเรียน และครูผู้สอน ในการวิจัยครั้งนี้ใช้กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 341 คน จำแนกเป็นกลุ่มผู้บริหารสถานศึกษา จำนวน 56 คน และครูผู้สอน จำนวน 285 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมเป็นแบบสอบถามชนิดมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ โดยมีค่าความเชื่อมั่นของแบบสอบถามเกี่ยวกับภาวะผู้นำเชิงสถานการณ์ของผู้บริหาร เท่ากับ 0.96 โดยมีค่าอำนาจจำแนกของแบบสอบถามรายข้อ (r) มีค่าอยู่ระหว่าง 0.62 – 0.92 และค่าความเชื่อมั่นของแบบสอบถามเกี่ยวกับประสิทธิผลการบริหารงานโรงเรียน เท่ากับ 0.98 โดยมีค่าอำนาจจำแนกของแบบสอบถามรายข้อ มีค่าอยู่ระหว่าง 0.61 – 0.89 สถิติที่ใช้ในการวิจัยในครั้งนี้ ได้แก่ ค่าเฉลี่ย () ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) สถิติการทดสอบค่าสถิติที (t-test) สถิติทดสอบเอฟ (F-test) แบบการวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (One Way ANOWA) ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์อย่างง่ายของเพียร์สัน (Pearson Product-Moment Correlation Coefficient) และสถิติการวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณแต่ละขั้นตอน (Stepwise Multiple Regression analysis) ผลการวิจัยพบว่า 1. ภาวะผู้นำเชิงสถานการณ์ของผู้บริหารและประสิทธิผลการบริหารงานโรงเรียน ตามความคิดเห็นของผู้บริหารสถานศึกษาและครูผู้สอน อยู่ในระดับมาก 2. ภาวะผู้นำเชิงสถานการณ์ของผู้บริหาร และประสิทธิผลการบริหารงานโรงเรียน จำแนกตามสถานภาพการดำรงตำแหน่ง และขนาดของโรงเรียน พบว่า โดยภาพรวมแตกต่างกัน อย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ส่วนจำแนกตามประสบการณ์ไม่มีความแตกต่างกัน 3. ความสัมพันธ์ระหว่างภาวะผู้นำเชิงสถานการณ์ของผู้บริหารของผู้บริหารสถานศึกษากับประสิทธิผลการบริหารงานโรงเรียนมีความสัมพันธ์ทางบวก โดยมีค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ 0.723 4. ภาวะผู้นำเชิงสถานการณ์ของผู้บริหารที่ส่งผลต่อประสิทธิผลการบริหารงานโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสกลนคร เขต 1 พบว่า มีจำนวน 4 ด้าน ที่สามารถพยากรณ์ประสิทธิผลการบริหารงาน โดยรวม ได้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 5. แนวทางการพัฒนาภาวะผู้นำเชิงสถานการณ์ของผู้บริหารที่ส่งผลต่อประสิทธิผลการบริหารงานโรงเรียน มี 4 ด้าน คือ ด้านภาวะผู้นำแบบสนับสนุน ด้านภาวะผู้นำแบบบรรลุผลสำเร็จ ด้านภาวะผู้นำแบบมีส่วนร่วมและด้านภาวะผู้นำแบบสั่งการ
Abstract
The purposes of this research were to examine the level, compare, determine the relationship, identify the predictive power, and establish guidelines for developing the situational leadership of administrators and the effectiveness of school administration. The sample group included a total of 341 participants, including 56 school administrators and 285 teachers from 56 schools under Sakon Nakhon Primary Educational Service Area Office 1. The instrument for data collection comprised a set of 5-scale questionnaires on situational leadership of administrators with the reliability of 0.96 and the discrimination power ranging from 0.62 to 0.92, and the effectiveness of school administration with the reliability of 0.98 with the discrimination power ranging from 0.61 to 0.89. The statistics were mean (x̅), standard deviation (S.D.), t-test for Independent Samples, One-Way ANOVA, Pearson’s product-moment correlation analysis, and Stepwise multiple regression analysis. The findings revealed that: 1. Situational leadership of administrators and the effectiveness of school administration as perceived by participants were at a high level. 2. Situational leadership of administrators and the effectiveness of school administration, as perceived by participants’ positions and school sizes were overall differences at the .01 level of significance. When considering work experience, there were no differences. 3. The situational leadership of administrators has a positive relationship with the effectiveness of school administration at the .01 level of significance with a correlation coefficient of 0.723, indicating a high level of relationship. 4. Situational leadership of administrators affecting the effectiveness of school administration comprised four aspects, namely supportive leadership, achievement-oriented leadership, participative leadership, and directive leadership, that could predict the overall effectiveness of school administration with 71.90 percent at the .01 level of significance. 5. The proposed guidelines for developing situational leadership of administrators and the effectiveness of school administration included four aspects, namely supportive leadership, achievement-oriented leadership, participative leadership, and directive leadership.
คำสำคัญ
ภาวะผู้นำเชิงสถานการณ์, ประสิทธิผลการบริหารงานโรงเรียนKeyword
Academic Leadership of Administrators, Professional Learning Community of Schoolsกำลังออนไลน์: 51
วันนี้: 1,104
เมื่อวานนี้: 1,740
จำนวนครั้งการเข้าชม: 56,303
อาคารบัณฑิตวิทยาลัย ชั้น 2 ตำบลธาตุเชิงชุม อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร 47000 โทร/ แฟกซ์ 0-4297-0036
บรรณาธิการ: รองศาสตราจารย์ ดร.ไชยา ภาวะบุตร
ติดต่อ/สอบถาม: นายธีรเวทย์ เพียรธัญญกรณ์
โทร: 0-4297-0093