บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อศึกษา เปรียบเทียบ หาความสัมพันธ์ หาอำนาจพยากรณ์ของสมรรถนะประจำสายงานของครูที่ส่งผลต่อความเป็นชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพโรงเรียนและหาแนวทางพัฒนาสมรรถนะประจำสายงานของครู สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครพนม เขต 2 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ครูผู้สอน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครพนม เขต 2 ปีการศึกษา 2564 จำนวน 330 คน โดยใช้ตาราง กำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่างของ Krejcie and Morgan และใช้วิธีสุ่มแบบหลายขั้นตอน (Multi-Stage Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแบบสอบถามมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ ประกอบด้วย แบบสอบถามสมรรถนะประจำสายงานของครู มีค่าอำนาจจำแนก 0.66 - 0.85 มีค่าความเชื่อมั่น เท่ากับ 0.98 และแบบสอบถามความเป็นชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพในโรงเรียน มีค่าอำนาจจำแนก 0.51 - 0.87 มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.98 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบ t-test ชนิด Independent Samples การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (One-Way ANOVA) การวิเคราะห์ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์อย่างง่ายของเพียร์สัน (Pearson’s Product Moment Correlation) และการวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณแต่ละขั้นตอน ผลการวิจัย พบว่า 1. ระดับสมรรถนะประจำสายงานของครู โดยรวมอยู่ในระดับมาก 2. ระดับความเป็นชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพโรงเรียน โดยรวมอยู่ในระดับมาก 3. ผลการเปรียบเทียบสมรรถนะประจำสายงานของครู ตามความคิดเห็นของครู จำแนกตามเพศและการดำรงตำแหน่งของครู พบว่า โดยรวมไม่แตกต่างกัน ส่วนจำแนกตามขนาดของโรงเรียน พบว่า โดยรวมแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 4. ผลการเปรียบเทียบความเป็นชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพในโรงเรียน ตามความคิดเห็นของครูจำแนกตามเพศและการดำรงตำแหน่งของครู พบว่า โดยรวมไม่แตกต่างกัน ส่วนจำแนกตามขนาดของโรงเรียน พบว่า โดยรวมแตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 5. สมรรถนะประจำสายงานของครูกับความเป็นชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพโรงเรียน มีความสัมพันธ์กันในทางบวกอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 โดยมีความสัมพันธ์อยู่ในระดับสูง (rxy=876**) 6. สมรรถนะประจำสายงานของครู จำนวน 5 ด้าน ที่สามารถพยากรณ์ความเป็นชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพในโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครพนม เขต 2 ได้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ได้แก่ ด้านการสร้างความสัมพันธ์และความร่วมมือกับชุมชนเพื่อการจัดการเรียนรู้ ด้านการบริหารจัดการชั้นเรียน ด้านวิเคราะห์ สังเคราะห์ และการวิจัยเพื่อพัฒนาผู้เรียน ด้านภาวะผู้นำครู และด้านการบริหารหลักสูตรและการจัดการเรียนรู้ โดยมีอำนาจพยากรณ์ ร้อยละ 79.40 และมีความคลาดเคลื่อนมาตรฐานของการพยากรณ์เท่ากับ ±0.23177 สามารถเขียนสมการการวิเคราะห์พหุคูณถดถอยในรูปคะแนนดิบ ดังนี้ Y’ = .123 + .394 (X6) + .186 (X3) + .121 (X4) + .168 (X5) + .104 (X1) และสามารถเขียนสมการการวิเคราะห์พหุคูณถดถอยในรูปแบบคะแนนมาตรฐาน ดังนี้ Z’ = .403 (Z6) + .165 (Z3) + .139 (Z4) + .168 (Z5) + .101 (Z1) 7. สมรรถนะประจำสายงานของครูที่ส่งผลต่อความเป็นชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครพนม เขต 2 ที่ควรได้รับการพัฒนา จำนวน 5 ด้าน ประกอบด้วย 1) ด้านการสร้างความสัมพันธ์และความร่วมมือกับชุมชนเพื่อการจัดการเรียนรู้ 2) ด้านการบริหารจัดการชั้นเรียน 3) ด้านวิเคราะห์ สังเคราะห์ และการวิจัยเพื่อพัฒนาผู้เรียน 4) ด้านภาวะผู้นำครู 5) ด้านการบริหารหลักสูตรและการจัดการเรียนรู้
Abstract
The purposes of this research aimed to examine, compare, determine the relationship, identify the predictive Teachers’ Functional Competency Affecting Professional Learning Communities under Nakhon Phanom Primary Educational Service Area Office 2, and establish the guidelines for development Teachers’ Functional Competency under Nakhon Phanom Primary Educational Service Area Office 2. The sample, obtained through Multi – Stage Random Sampling, were 330 teachers under Nakhon Phanom Primary Educational Service Area Office 2 in the academic year 2021. The research instrument for data collection was a rating scale questionnaire containing two aspects: Aspect 1: The Teachers’ Functional Competency with the discriminative power between 0.66 and 0.85 and the reliability of 0.98; Aspect 2 Professional Learning Community in Schools with the discriminative power between 0.51 and 0.87 and the reliability of 0.98. The statistics for data analysis were frequency, percentage, mean and standard deviation. The hypothesis testing was done through t-test and F-test (One – Way ANOVA), Pearson’s product-moment correlation, and Stepwise multiple regression analysis. The findings were as follows: 1. Teachers’ Functional Competency was overall at a high level. 2. Professional Learning Community in Schools was overall at a high level. 3. The comparison results revealed that the Teachers’ Functional Competency as perceived by teachers, classified by gender and academic standing, as a whole and in each aspect showed no difference. But classified by school sizes, was different at the .01 level of significance. 4. The comparison results revealed that Professional Learning Community in Schools as perceived by teachers, classified by gender and academic standing, as a whole and in each aspect showed no difference. But classified by school sizes, was different at the .01 level of significance. 5. Teachers’ Functional Competency and Professional Learning Community in Schools had the positive relationship at a high level with the .01 level of significance. (rxy=.876**) 6. The five aspects of Teachers’ Functional Competency consisting of Relationship & Collaborative – Building for Learning Management, Classroom Management, Analysis & Synthesis & Classroom Research, Teacher Leadership, and Curriculum and Learning Management, could predict Professional Learning Community in Schools under Nakhon Phanom Primary Educational Service Area Office 2 with the predictive power of 79.40 percent and standard error of estimate of ±0.23177. The regression equation of raw scores could be written as follows: Y’ = .123 + .394 (X6) + .186 (X3) + .121 (X4) + .168 (X5) + .104 (X1) The regression equation of standard scores could be written as follows: Z’ = .403 (Z6) + .165 (Z3) + .139 (Z4) + .168 (Z5) + .101 (Z1) 7. The proposed guidelines for developing Teachers’ Functional Competency Affecting Professional Learning Communities under Nakhon Phanom Primary Educational Service Area Office 2 consisted of three aspects: 1) Relationship & Collaborative – Building for Learning Management 2) Classroom Management 3) Analysis & Synthesis & Classroom Research 4) Teacher Leadership 5) Curriculum and Learning Management
คำสำคัญ
สมรรถนะประจำสายงานของครู, ความเป็นชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพKeyword
Teachers’ Functional Competency, Professional Learning Communityกำลังออนไลน์: 89
วันนี้: 1,918
เมื่อวานนี้: 1,740
จำนวนครั้งการเข้าชม: 57,117
อาคารบัณฑิตวิทยาลัย ชั้น 2 ตำบลธาตุเชิงชุม อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร 47000 โทร/ แฟกซ์ 0-4297-0036
บรรณาธิการ: รองศาสตราจารย์ ดร.ไชยา ภาวะบุตร
ติดต่อ/สอบถาม: นายธีรเวทย์ เพียรธัญญกรณ์
โทร: 0-4297-0093