บทคัดย่อ
บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้ มีจุดมุ่งหมาย 1) เพื่อศึกษาสภาพและปัญหาการมีส่วนร่วมของผู้ปกครองนักเรียนในการจัดการศึกษาในโรงเรียน 2) เพื่อเปรียบเทียบสภาพและปัญหาการมีส่วนร่วมของผู้ปกครองนักเรียนในการจัดการศึกษาในโรงเรียน ตามความคิดเห็นของผู้บริหารโรงเรียน ครูผู้สอนและผู้ปกครองนักเรียน 3) เพื่อเปรียบเทียบสภาพและปัญหาการมีส่วนร่วมของผู้ปกครองนักเรียนในการจัดการศึกษาในโรงเรียน จำแนกตามลักษณะโรงเรียนที่เปิดสอน อายุ อาชีพ เพศและวุฒิการศึกษา และ 4) หาแนวทางส่งเสริมการมีส่วนร่วมของผู้ปกครองนักเรียนในการจัดการศึกษาในโรงเรียนกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยจำนวน 400 คน ประกอบด้วย ผู้บริหารโรงเรียนจำนวน 50 คน ครูผู้สอน จำนวน 100 คน และผู้ปกครองนักเรียนจำนวน 250 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถามความคิดเห็นของผู้ปกครองนักเรียนในการจัดการศึกษาในโรงเรียน ตามความคิดเห็นของผู้บริหาร ครูผู้สอนและผู้ปกครองนักเรียน โดยแบบสอบถามด้านสภาพการมีส่วนร่วมมีค่าอำนาจจำแนกอยู่ระหว่าง 0.23-0.76 และมีค่าความเชื่อมั่นอยู่ระหว่าง 0.85-0.90 ด้านปัญหาการมีส่วนร่วมมีค่าอำนาจจำแนกอยู่ระหว่าง 0.25-0.87 และมีค่าความเชื่อมั่นอยู่ระหว่าง 0.91-0.95 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ค่าร้อยละ (Percentage) ค่าเฉลี่ย (x) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) ค่าที (t- test ชนิด (Independent Samples) และค่าเอฟ (F-test ชนิด One Way ANOVA)
ผลการวิจัย พบว่า
1.สภาพและปัญหาการมีส่วนร่วมของผู้ปกครองนักเรียนในการจัดการศึกษาในโรงเรียนโดยรวมอยู่ในระดับมากส่วนปัญหาการมีส่วนร่วมของผู้ปกครองนักเรียนในการจัดการศึกษาในโรงเรียนโดยรวมอยู่ในระดับน้อยตามลำดับ
2. สภาพและปัญหาการมีส่วนร่วมของผู้ปกครองนักเรียนในการจัดการศึกษาในโรงเรียนตามความคิดเห็นของผู้บริหารครูผู้สอนและผู้ปกครองนักเรียน โดยรวม มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
3. สภาพการมีส่วนร่วมของผู้ปกครองนักเรียนในการจัดการศึกษาในโรงเรียนโดยรวม จำแนกตามลักษณะโรงเรียนที่เปิดสอน แตกต่างกันที่ระดับ .05 ส่วนจำแนกตามอายุ อาชีพ เพศ และวุฒิการศึกษา แตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ส่วนจำแนกตามตัวแปรเพศไม่มีความแตกต่างกัน ส่วนปัญหาการมีส่วนร่วมของผู้ปกครองนักเรียนในการจัดการศึกษา โดยรวมจำแนกตามลักษณะโรงเรียนที่เปิดสอน และจำแนกตามเพศของผู้ปกครอง ไม่มีความแตกต่างกัน ส่วนการจำแนกตามอายุ อาชีพ วุฒิการศึกษา มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ.01
4. ในการวิจัยครั้งนี้ได้นำเสนอวิธีการมีส่วนร่วมของผู้ปกครองนักเรียนในการจัดการศึกษาในโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาสกลนครเขต 1 คือ ด้านการสนับสนุนทรัพยากรการศึกษา
Abstract
ABSTRACT
The purposes of this study were to 1) investigate the parents’ /guardians’participation on learning management of the schools, 2) compare the parents’/guardians participation toward learning management in the schools as perceived by the school administrators, teachers and parents/guardians, 3) compare the parents’/guardians ‘participation on learning management in the schools in the perceptions of school adminitrators, teachers and parents/guardians clssified by educational provision of the schools,age, career, gender and educational qualifications, and 4) find out guidelines to promote the parents’/gaurdians/ participation on learning management in the schools. The sampling group consisted of 250 parents/guardians in the schools. The instruments used for this study were questionnaires based on the opinions of the parents/guardians regarding educational management in the schools in the opinions of the school administrators, teachers and parents/guardians. The questionnaires on the states of participation obtained discrimination of 0.25-0.87 and reliability of 0.91- 0.95.The statistics utilized in analyzing data were composed of percentage, mean (x), standard deviation, t-test (Independent Samples), and F-test.(One-Way ANOVA).
The findings were as follows:
1.The states and problems on the parents / guardians’ participation on learning management in the schools as a whole, were at the high level. In case of the problems on the participation on learning management of the parents/guardians in the schools , it was found thatthey were at the low in general.
2. There was a difference in the parents’ / guardians’ participation on learning management of the schools as perceived by the school administrators, teachers and parents/guardians in general at the .01 level of significance.
3. There was a difference in the states on the parents’/guardians participation on learning management in the schools classified by different educational provision, at the .05 level of significance. When classified by age, occupation , gender and educational qualifications, it differed sinificantly at the .01 level. There were no differences when gender was classified. The problems of the parents/guardians on learning management classified by educational qualifications as well as gender showed no differences. There was a significant difference when classified by age,gender,career and educational qualifications at the .01 level.
4. The researcher proposed the guidelines to encourage the parents’/guardians’ participation on learning management in the schools including support on educational resources.
คำสำคัญ
การมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษาKeyword
Participation on Learning of managementกำลังออนไลน์: 34
วันนี้: 1,052
เมื่อวานนี้: 1,352
จำนวนครั้งการเข้าชม: 81,805
อาคารบัณฑิตวิทยาลัย ชั้น 2 ตำบลธาตุเชิงชุม อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร 47000 โทร/ แฟกซ์ 0-4297-0036
บรรณาธิการ: รองศาสตราจารย์ ดร.ไชยา ภาวะบุตร
ติดต่อ/สอบถาม: นายธีรเวทย์ เพียรธัญญกรณ์
โทร: 0-4297-0093