บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา เปรียบเทียบ ศึกษาความสัมพันธ์ ศึกษาอำนาจพยากรณ์ และศึกษาแนวทางการพัฒนาภาวะผู้นำเชิงสร้างสรรค์ของผู้บริหารสถานศึกษาที่ส่งผลต่อการปฏิบัติงานของครู สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานครพนม กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ผู้บริหารสถานศึกษาและครูผู้สอน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานครพนม ปีการศึกษา 2566 จำนวน 315 คน จำแนกเป็นกลุ่มผู้บริหารสถานศึกษาจำนวน 111 คน และครูผู้สอนจำนวน 204 คน และกำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่างตามตารางของ Krejcie and Morgan โดยเลือกกลุ่มตัวอย่างการสุ่มแบบหลายขั้นตอน (Multi - Stage Random Sampling) การเก็บรวบรวมข้อมูลใช้แบบสอบถามชนิดมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ คือ แบบสอบถามระดับภาวะผู้นำเชิงสร้างสรรค์ของผู้บริหารสถานศึกษา มีค่าอำนาจจำแนกอยู่ระหว่าง 0.521 – 0.857 มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.895 และแบบสอบถามระดับการปฏิบัติงานของครู มีค่าอำนาจจำแนกอยู่ระหว่าง 0.453 – 0.779 มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.824 สถิติที่ช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตราฐาน การทดสอบที (t – test) ทดสอบเอฟ (F - test) แบบการวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (One - way ANOVA) การวิเคราะห์หาค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์อย่างง่ายของเพียร์สัน (Pearson’s Product Moment Correlation Coefficient) และการวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณทีละขั้นตอน (Stepwise Multiple Regression Analysis) ผลการวิจัยพบว่า 1. ภาวะผู้นำเชิงสร้างสรรค์ของผู้บริหารสถานศึกษา ตามความคิดเห็นของผู้บริหารสถานศึกษาและครูผู้สอน โดยรวมอยู่ในระดับมาก 2. การปฏิบัติงานของครู ตามความคิดเห็นของผู้บริหารสถานศึกษาและครูผู้สอน โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด 3. การเปรียบเทียบภาวะผู้นำเชิงสร้างสรรค์ของผู้บริหารสถานศึกษา ตามความคิดเห็นของผู้บริหารสถานศึกษาและครูผู้สอน จำแนกตามสถานภาพการดำรงตำแหน่งและจำแนกตามขนาดโรงเรียน โดยรวมแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ .01 แต่จำแนกตามประสบการณ์การปฏิบัติงาน ไม่แตกต่างกัน 4. การเปรียบเทียบการปฏิบัติงานของครู ตามความคิดเห็นของผู้บริหารสถานศึกษาและครูผู้สอน จำแนกตามสถานภาพการดำรงตำแหน่งและจำแนกตามประสบการณ์การปฏิบัติงาน โดยรวมแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ .01 แต่จำแนกตามขนาดโรงเรียน ไม่แตกต่างกัน 5. ภาวะผู้นำเชิงสร้างสรรค์ของผู้บริหารสถานศึกษามีความสัมพันธ์ทางบวกกับการปฏิบัติงานของครู โดยรวมอยู่ในระดับปานกลาง (rxy = 0.594) 6. ภาวะผู้นำเชิงสร้างสรรค์ของผู้บริหารสถานศึกษาที่สามารถพยากรณ์การปฏิบัติงานของครูได้โดยมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 มีจำนวน 3 ด้าน ได้แก่ ด้านการมีวิสัยทัศน์ ด้านความคิดสร้างสรรค์และด้านการแก้ไขปัญหา 7. การวิจัยครั้งนี้ได้นำเสนอแนวทางพัฒนาภาวะผู้นำเชิงสร้างสรรค์ของผู้บริหารสถานศึกษาไว้ มี 3 ด้าน ดังนี้ 1) ด้านวิสัยทัศน์ ได้แก่ มองภาพความสำเร็จในอนาคต ตั้งเป้าหมายอย่างชัดเจน และสนับสนุนให้เกิดการมีส่วนร่วม 2) ด้านความคิดสร้างสรรค์ ได้แก่ การคิดใหม่ หาวิธีการใหม่ ปรับเปลี่ยนความคิดและวิธีการ วิเคราะห์และสังเคราะห์ปัญหา 3) ด้านการแก้ไขปัญหา ได้แก่ มีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหา วางแผนกำหนดขั้นตอนการแก้ไขปัญหาอย่างชัดเจน และหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาได้อย่างหลากหลาย
Abstract
The purposes of this research were to examine, compare, identify the relationship, determine the discriminative power and establish guidelines for developing creative leadership of school administrators affecting teacher performance under Nakhon Phanom Secondary Educational Service Area Office. The sample, obtained through multi - stage random sampling, consisted of 315 participants, including 111 school administrators and 204 teachers under Nakhon Phanom Secondary Educational Service Area Office in the academic year 2023. The sample size was determined by Krejcie and Morgan's table. The data was collected using sets of 5-point rating scale questionnaires: a set on a level of school administrators’ creative leadership with the discriminative power ranging from 0.521 to 0.857, and the reliability of 0.895, and a set of questionnaires on a level of teacher performance with the discriminative power ranging from 0.453 to 0.779, and the reliability of O.824. The statistics for data analysis were frequency, percentage, mean, standard deviation, t - test, F – test One - Way ANOVA, Pearson's Product - Moment Correlation Coefficient, and Stepwise Multiple Regression Analysis. The findings were as follows: 1. The creative leadership of school administrators, as perceived by participants, was overall at a high level. 2. The teacher performance, as perceived by participants, was overall at a high level. 3. The overall creative leadership of school administrators, as perceived by participants with different positions and school sizes, showed differences at the .01 level of significance, whereas in terms of work experience, overall, there was no difference. 4. There were significant differences in overall teacher performance, as perceived by participants’ positions and work experience, with the .01 level of significance, whereas when considering school sizes, there were no significant differences observed overall. 5. The overall creative leadership of school administrators was correlated positively with teacher performance at a moderate level (rxy = .594). 6. School administrators' creative leadership comprised three aspects, namely visions, creativity, and problem - solving, which could predict teacher performance at the .01 level of significance with 40.10 percent and a standard error of estimate of +.229091. 7. The research has proposed guidelines for developing school administrators’ creative leadership, focusing on three aspects: 1) Vision: Envisioning future success, setting clear goals, and supporting active participation; 2) Creativity: Embracing new thinking, innovative approaches, adaptability in thinking and approaches, and analysis and synthesis of problems; and 3) Problem-solving: Participating in solving problems, planning clear problem-solving steps, and establishing guidelines for solving problems.
คำสำคัญ
ภาวะผู้นำเชิงสร้างสรรค์, การปฏิบัติงานของครูKeyword
Creative Leadership, Teacher Performanceกำลังออนไลน์: 308
วันนี้: 1,332
เมื่อวานนี้: 3,743
จำนวนครั้งการเข้าชม: 180,840
อาคารบัณฑิตวิทยาลัย ชั้น 2 ตำบลธาตุเชิงชุม อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร 47000 โทร/ แฟกซ์ 0-4297-0036
บรรณาธิการ: รองศาสตราจารย์ ดร.ไชยา ภาวะบุตร
ติดต่อ/สอบถาม: นายธีรเวทย์ เพียรธัญญกรณ์
โทร: 0-4297-0093